1.คนเห็นคนเป็นคนนั่นแหละคน คนเห็นคนใช่คนใช่คนไม่
เกิดเป็นคนต้องเป็นคนทุกคนไป จนหรือมีผู้ดีไพร่ไม่พ้นคน”
บทประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏลักษณะการแต่งแบบใด
เกิดเป็นคนต้องเป็นคนทุกคนไป จนหรือมีผู้ดีไพร่ไม่พ้นคน”
บทประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏลักษณะการแต่งแบบใด
- การเล่นคำซ้ำ
- การเล่นคำพ้อง
- การใช้สัมผัสสระอักษร
- การใช้ปฏิพากย์
“มาทำลายรั้วระวังให้พังราบ มาร่ายเสกมนต์สาปให้หมดเศร้ามาให้ห่วงคิดถึงทุกค่ำเช้า มาปล้นเอาหัวใจไปหมดแล้ว”
2.น้ำเสียงของผู้แต่งเป็นอย่างไร- อาลัย
- จริงจัง
- เพ้อฝัน
- มีความสุข
- สัมผัสสระ
- สัมผัสอักษร
- การใช้ภาพพจน์
- การใช้กลบท
- ทหารที่ออกไปรบ
- ขโมย
- นางอันเป็นที่รัก
- พ่อมด
ขอบคุณ...
ขอบคุณสำหรับโรงบุหรี่
ขอบคุณอีกทีกับโรงหวย
ขอบคุณสนามม้าชาติหน้ารวย
ขอบคุณโรงเหล้าด้วยช่วยชาติไทย
5.ข้อใดเแสดงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เด่นชัดที่สุด
- เกลียดชัง
- ประชด
- ชื่นชม
- ยกย่อง
- เตือนให้คิด
- แนะให้ทำ
- ติเตียน
- สั่งสอน
- ไทยคงเอกราชด้วย ฝีมือ ไทยเอย
- ขอบคุณไมตรีที่มีให้ ความห่วงใยอาทรแต่ก่อนเก่า
แม้วันนี้ไม่มีทางระหว่างเรา ก็ไม่เศร้าเหงาหรอกใจบอกมา - หนึ่งจะต้องอกหักกับรักแรก สองจะต้องไม่แปลกกับรักใหม่
สามจะต้องผิดหวังทุกครั้งไป สี่จะต้องจำไว้รักคือทุกข์ - จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
“มิ่งมิตร... เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น
ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม
ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม
ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”
8.แนวคิดใดไม่ปรากฏในบทประพันธ์นี้ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม
ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม
ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”
- สิทธิของมนุษย์
- ธรรมชาติของชีวิตที่มีทุกข์มีสุขสลับกัน
- การต่อสู้กับอุปสรรค
- ความยุติธรรมและความถูกต้อง
- อาจารย์
- เพื่อน
- พระ
- บุคคลอันเป็นที่รัก
- ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของถ้อยคำ
- ความง่ายและความงามของบทกลอน
- การใช้อุปลักษณ์และบุคคลวัต
- แสดงแนวคิดทางพุทธศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น